สำหรับบริษัท
หาพนักงาน ฟรี อย่างไรให้ได้คนทำงานจริง

หาพนักงาน ฟรี อย่างไรให้ได้คนทำงานจริง

05 กันยายน 2566

หาพนักงาน ฟรี อย่างไรให้ได้คนทำงานจริง

05 กันยายน 2566

       หากองค์กรของคุณ กำลังสนใจที่จะมอง หาพนักงาน ฟรี ไม่ว่าจะเป็นการหาพนักงานที่ทำงานในตำแหน่งใหม่ของบริษัท หรือการหาพนักงานเพิ่ม เนื่องจากมีการขยายแผนก โดยอาจมีการคัดเลือกพนักงานแบบ สัมภาษณ์งานออนไลน์  หรือการสัมภาษณ์งานที่องค์กร ทราบกันไหมว่า มีเทคนิคใดบ้าง ที่จะสามารถหาคนทำงาน ให้กับองค์กรได้จริง ไม่เสียเวลาฟรี ได้คนทำงานที่มีความรู้ ทักษะ และความสามารถในการทำงานได้จริง ตามมาดูบทความ หาพนักงาน ฟรี อย่างไรให้ได้คนทำงานจริง ที่ Jobmyway ได้เอามาให้บริษัทที่ต้องการหาคนทำงาน ได้ลองไปทำตามกันดู จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย


1.หาพนักงาน ฟรี  จากเว็บไซต์หางานที่มีคุณภาพ
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกในการหาพนักงาน ให้ได้คนทำงานที่มีคุณภาพเลยก็คือ การมองหาพนักงานการลงประกาศในเว็บไซต์หางานที่มีคุณภาพ โดยการเลือกเว็บไซต์รับสมัครงานที่มีคุณภาพ จะช่วยให้องค์กรของคุณมีความน่าเชื่อถือ สามารถช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนหางาน ในการที่จะสมัครงาน เนื่องจากหากลงประกาศรับสมัครงานในเว็บไซต์หางานที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ก็อาจส่งผลไปยังความน่าเชื่อถือขององค์กรของคุณตามไปด้วย

       โดยสามารถเลือกเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ จากการติดอันดับการค้นหาบนหน้า Google , การที่บทความ และข่าวสารต่างๆในเว็บไซต์สมัครงาน มีการอัปเดตอยู่เสมอ รวมถึงจำนวนขององค์กรที่มาลงโพสต์ประกาศรับสมัครงาน ก็มีผลเช่นเดียวกัน เพราะนั่นแปลได้ว่า เว็บไซต์รับสมัครงานนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ และไว้วางใจได้นั่นเอง โดยเว็บ Jobmyway ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์รับสมัครงาน ที่มีระบบจัดการและจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ มีการอัปเดตข่าวสาร และบทความที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการหางานทำ และบทความที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า การโพสต์รับสมัครงาน หาพนักงาน ฟรี จะได้รับผลตอบรับที่ดี และได้รับคนทำงานที่มีความรู้ความสามารถได้อย่างแน่นอน


2.หาคนทำงานจากช่องทางออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ
อีกหนึ่งวิธีในการหาพนักงาน ฟรี เลยก็คือ การลงประกาศหาคนทำงานในช่องทางออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือ หากพูดถึงเว็บไซต์ที่ใช้ลงประกาศรับสมัครงานที่ได้กล่าวไปในข้อด้านบนแล้ว ยังมีอีกแพลตฟอร์ม และช่องทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการมองเห็น และเพิ่มจำนวนผู้สมัครงานเลยก็คือ การเลือกช่องทางออนไลน์ ที่เปิดให้ลงประกาศรับสมัครงานได้แบบฟรีๆ คือช่องทางตามกลุ่ม หรือเพจใน Facebook ซึ่งเป็นกลุ่มหางาน ที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยอาจเลือกเพจ หรือกลุ่มรับสมัครงาน ที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมสูง และมีแอดมินที่คอยอนุมัติโพสต์ก่อน จะดีที่สุด โดยเทคนิคนี้จะช่วยให้องค์กรของคุณมีโอกาสพบเจอคนทำงาน และผู้สมัครงานที่มากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการได้คนทำงานที่ทำงานได้จริงมากขึ้นอีกด้วย


3.โพสต์ลงเว็บสมัครงานที่มีตัวเลือกแบบฟรี และจ่ายเงิน
ทราบกันไหมว่า การโพสต์ลงประกาศรับสมัครงาน นอกจากจะมีการลงประกาศรับสมัครงานแบบฟรีแล้วนั้น ยังมีอีกวิธีหนึ่งในการลงประกาศรับสมัครงาน ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมองเห็น และช่วยให้องค์กรของคุณสามารถหาคนทำงานได้เร็วขึ้นเลยก็คือ การเลือกเว็บไซต์รับสมัครงาน ที่มีตัวเลือกให้โพสต์ประกาศรับสมัครงานได้ทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน โดยทั้งสองแบบนั้น มีประสิทธิภาพในการมองเห็นที่ใกล้เคียงกัน
แต่ประกาศรับสมัครงานที่เสียเงินนั้น อาจถูกดันขึ้นไปอยู่หน้าแรกในการค้นหา และเพิ่มโอกาสในการกดเข้ามาอ่านได้มากกว่า อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการกดสมัครงานได้มากขึ้นอีกด้วย หากองค์กรของคุณมีความต้องการหาพนักงาน ให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น การเลือกลงประกาศรับสมัครงานแบบเสียเงิน ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่ถ้าหากไม่ได้มีความเร่งรีบในการหาพนักงาน ก็สามารถเลือก หาพนักงาน ฟรี ได้เช่นเดียวกัน


4.ลิสต์ตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องการให้ชัดเจน
สิ่งต่อมาที่องค์กรควรต้องทำเลยก็คือ การเขียนลิสต์ตำแหน่งงาน และหน้าที่ในการทำงานให้ชัดเจน เนื่องจากในหลายๆองค์กร อาจไม่มีการแบ่งตำแหน่งหน้าที่ในการทำงานที่ชัดเจน เมื่อลงประกาศรับสมัครงานไปแล้ว ก็อาจส่งผลให้คนทำงานรู้สึกไม่มั่นใจ และเลือกที่จะไม่ลงสมัครงานกับองค์กรของคุณ การเขียนตำแหน่งหน้าที่ในการทำงานที่ชัดเจน ว่าหน้าที่ที่ต้องทำ มีอะไรบ้าง จะช่วยให้คนทำงานสามารถเข้าใจ และมีความมั่นใจที่อยากจะสมัครงาน และทำงานในองค์กรของคุณมากขึ้น


5.เริ่มต้นเขียนโพสต์รับสมัครงาน
ต่อมาคือการเริ่มต้นเขียนโพสต์รับสมัครงาน โดยควรกำหนด ชื่อตำแหน่งที่ต้องการเปิดรับสมัครงาน ตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องทำ ในข้อด้านบนที่กล่าวเอาไว้ และใส่สวัสดิการที่องค์กรมี ไม่ว่าจะเป็น วันหยุด วันลา การปรับขึ้นเงินเดือน สวัสดิการอื่นๆ เช่น การจัดกิจกรรมกินเลี้ยงประจำปี , สวัสดิการประกันกลุ่ม , สวัสดิการในการซื้อสินค้าในเครือขององค์กรได้ในราคาพิเศษ หรือสวัสดิการในการทำงานแบบ Work From Home หรือการทำงานแบบ Hybrid เข้าออฟฟิศ 2 วันต่อสัปดาห์ เป็นต้น
อีกทั้งยังควรใส่ประวัติขององค์กรแบบคร่าวๆ , สถานที่ตั้งขององค์กร , วิสัยทัศน์ขององค์กร และช่องทางการติดต่อเอาไว้ให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่ , เบอร์โทรศัพท์ , อีเมลขององค์กร , ไลน์ และช่องทางอื่นๆที่คิดว่ามีความจำเป็น สิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยดึงดูด ให้คนทำงานเกิดความสนใจ ที่อยากจะเข้ามาสมัครงานมากขึ้นนั่นเอง โดยบางองค์กร ที่อาจต้องการรับสมัครงานแบบ 2 ภาษา ที่มีการลงประกาศทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ก็สามารถเขียนประกาศรับสมัครงานให้ครบทุกภาษาที่ต้องการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็น และได้คนทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น


6.ตรวจเช็กข้อมูลความถูกต้องให้ครบถ้วน
หลังจากเขียนประกาศรับสมัครงานแล้ว สิ่งต่อมาที่ควรทำเลยก็คือ การตรวจเช็กความถูกต้องของข้อมูล และความถูกต้องของการสะกดคำต่างๆ ให้ครบถ้วน เนื่องจากหากมีการลงข้อมูลผิดพลาด หรือเขียนสะกดผิด ก็อาจทำให้องค์กรของคุณมีความน่าเชื่อถือที่น้อยลง หรืออาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะการเขียนข้อมูลที่อยู่องค์กร หรือช่องทางในการติดต่อ ที่หากมีการใส่ข้อมูลที่ผิดพลาด ก็อาจทำให้คนทำงานไม่สามารถสมัครงาน หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากองค์กรได้นั่นเอง


7.สัมภาษณ์งานออนไลน์ ด้วยคำถามวัดทักษะการทำงาน
หลังจากลงประกาศรับสมัครงานไปแล้ว และได้ผลตอบรับจากการมีคนทำงานสมัครงานเข้ามา ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือ การสัมภาษณ์งาน ทั้งแบบออนไลน์ หรือแบบวอร์คอิน จำเป็นต้องมีการเลือกใช้คำถามที่จะใช้วัดทักษะความสามารถของผู้สมัครงาน นอกจากจะมีการถามประวัติส่วนตัว ประสบการณ์ในการทำงานต่างๆแล้วนั้น การถามเพื่อวัดทักษะในการทำงาน ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพราะจะเป็นตัวที่จะช่วยวัดว่าผู้สมัครงานนั้น มีความรู้ และความสามารถที่เหมาะสมเพียงพอที่จะเข้ามาทำงานในองค์กรของคุณหรือไม่ เช่น หากเป็นคำถามที่จะใช้วัดทักษะ Hard Skill ก็อาจเลือกใช้เป็นการทดสอบทักษะในการใช้ภาษา , การวัดทักษะ Soft Skill ก็อาจเลือกใช้เป็นคำถามที่คนทำงานจะใช้วิธีใด เพื่อแก้ปัญหา เมื่อต้องเจอกับปัญหาในการทำงาน และเมื่อเจอปัญหากับคนทำงาน เป็นต้น


8.ส่งแบบทดสอบการทำงานก่อนเริ่มงานจริง
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยการันตีคุณภาพในการทำงานของคนทำงานได้แบบเห็นผลเลยก็คือ การส่งแบบทดสอบการทำงาน ก่อนการทำงานจริง โดยอาจมีการให้ทดลองทำแบบทดสอบแบบง่ายๆ เพื่อวัดผลว่าผู้สมัครงานมีความรู้และความสามารถเพียงพอที่จะทำงานนี้ได้หรือไม่


9.อย่าลืมให้สวัสดิการที่น่าสนใจ
นอกจากนั้น การมอบสวัสดิการที่น่าสนใจให้กับผู้สมัครงาน ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และช่วยดึงให้ผู้สมัครงานที่มีความรู้ ความสามารถ สนใจที่จะเข้ามาสมัครงานในองค์กรของคุณเลยนั่นเอง

       ก็จบลงไปแล้วกับบทความ หาพนักงาน ฟรี อย่างไรให้ได้คนทำงานจริง  ที่ Jobmyway ได้เอาเทคนิคดีๆมาให้องค์กร หรือบริษัทที่กำลังมองหาพนักงานใหม่ ซึ่งเราหวังว่า ถ้าคุณเอาเทคนิคไปทำได้ตามนี้ องค์กรของคุณจะได้พนักงานที่มีคุณภาพ ในเงินเดือนที่สมเหตุสมผล และช่วยพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า และประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน  ในครั้งหน้าเราจะพาไปชมเทคนิคอะไรดีๆอีก อย่าลืมติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำงาน และการหางานทำได้ที่ Jobmyway หรือเพจ Jobmyway


อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่
ทริค ! ทำให้ตัวเองมีจุดยืน และเป็นที่ต้องการของตลาด
10 วิธีเสริมดวงให้การงานรุ่งพุ่งสุดปัง
วิธีปรับ Mindset สำหรับคนหางานที่เป็นโรค Imposter Syndrome
เช็คลิสต์ 9 ข้อก่อนหางานแบบ Remote Work
ลองเลย! ฟีเจอร์ใหม่ “ไทยมีงานทำ” วัดระดับภาษาอังกฤษ พร้อมออกใบรับรอง


TAGS : ผู้ประกอบการ , บทความผู้หางาน , jobmyway , เคล็ดลับทำงาน , งานมาแรง , สมัครงาน work from home , รับสมัครงาน work from home , หางานใกล้บ้าน , สมัครงานใกล้บ้าน , ลงประกาศรับสมัครงาน , หาพนักงาน

บทความที่ได้รับความนิยม
งานที่น่าสนใจ